บทที่8 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

การเรียนรู้แบบออนไลน์ (E-learning)       การเรียนรู้แบบออนไลน์  หรือ (E-learning) เป็นการศึกษา  เรียนรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ตหรืออินทราเน็ตเป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง  โดยเนื้อหาของบทเรียนอยู่ในรูปมัลติมีเดีย  จะถูกส่งไปยังผู้เรียนผ่านเว็บเบราว์เซอร์  โดยผู้เรียนผู้สอนและเพื่อนรวมชั้นเรียนทุกคน สามารถติดต่อ ปรึกษาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน  ซึ่งการให้บริการการเรียนแบบออนไลน์  มีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ส่วนดังนี้
                1)  เนื้อหาของบทเรียน
                2)  ระบบบริหารการเรียน  ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลาง  กำหนดลำดับของเนื้อหาในบทเรียน
                3)  การติดต่อสื่อสาร  การเรียนแบบ E-learning นำรูปแบบการติดต่อสื่อสารแบบ2ทิศทางมาใช้ในการประกอบการเรียน  โดยเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารอาจแบ่งได้เป็น 2  ประเภทคือ   ประเภท Rwal-time   และอื่นอื่นๆส่วนอีกแบบคือ  ประเภทNonreal-time

บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer  Assisted  Instruction-CAI)
                บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจะเสนอสารสนเทศที่ได้ผ่านกระบนการสร้างและพิจารณามาเป็นอย่างดี  โดยมีเนื้อหาวิชาหรือสารสนเทศ  แบบฝึกหัด  การทดสอบและการให้ข้อมูลป้อนกลับให้ผู้เรียนได้ตอบยนองต่อบทเรียนได้  เนื้อหาวิชาที่นำเสนอจะอยู่ในรูปแบบมัลติมีเดีย

วีดีทัศน์ตามอัธยาศัย  (Video  on  Demand-VDO)
                การจัดฐานข้อมูลต้องอาศัยโปรแกรมที่ทำหน้าที่กำหนดลักษณะข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูล อำนวยความสะดวกในการบันทึกลงในฐานข้อมูล  กำหนดผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้ฐานข้อมูล  พร้มทั้งกำหนดด้วยว่าให้ใช้ได้แบบใด  นอกจากนั้นยังอำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูล  การแก้ไขปรับปรุงข้อมูลตลอดจนการจัดทำข้อมูลสำรอง  โดยอาศัยโปรแกรมที่เรียกว่า  ระบบการจัดการฐานข้อมูล

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-books)
                หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถอ่านได้ทางอินเทอร์เน็ต   สำหรับเครื่องมือที่จำเป็นต้องมีในการอ่านหนังสือประเภทนี้คือ  ฮาร์ดแวร์ ประเภทเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พร้อมทั้งติดตั้งระบบปฏิบัติการหรือซอฟแวร์ที่ใช้ในการอ่านข้อความต่างๆ

ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์(E-library)
                มีความต้องการของผู้ใช้ในการใช้บริการเป็นแรงผักดันให้ห้องสมุดเปลี่ยนการใช้บริการงานห้องสมุดมาเป็นระบบอัตโนมัติ  เช่น
                 

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาธุรกิจพาณิชย์และสำนักงาน
          E-commerce   หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์  หมายถึง การทธุรกรรมในเชิงธุรกิจทุกประเภทที่กระทำผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์  รวมทั้งกิจกรรมการซื้อขาย  การแลกเปลี่ยนสินค้าและกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้อง
          สื่ออิเล็กทรอนิกส์  หมายถึง สื่อที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือหลักในการปฏิบัติงานและติดต่อสื่อสารข้อมูล
               

E-business
เป็นธุรกิจเชิงอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีขอบเขตที่เรียกว่า E-commerce   เนื่องจากเป็นการพิจารณาถึงองค์ประกอบทุกส่วนของการดำเนินงานธุรกิจ  มิได้พิจารณาเพียงเฉพาะกิจกรรมการซื้อขายเท่านั้น

การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์

เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ รับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครื่อข่ายใช้ในรูปแบบที่เป็นเอกสารมาตรฐานเพื่อให้หน่วยงานธุรกิจหรือองค์ประกอบต่างๆสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
         สำหรับมาตรฐานของEDI  ในประเทศไทยถูกกำหนดโดยกรมศุลกากร  ซึ่งเป็นหน่วยงานแรกทีนำระบนี้มาใช้งาน  คือ  มาตรฐาน EDIFACT
ประโยชน์ของการใช้ระบบ  EDI
-ลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดการส่งเอกสาร-ลดเวลาทำงานในการป้อนข้อมูล
-เพิ่มวามรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร
-ลดค่าใช้จ่ายและภาระงานด้านเอกสาร-แก้ปัญหาอุปสรรคทางภูมิศาสตร์และเวลา

ระบบทำงานอัตโนมัติ
          ปัจจุบันสำนักงานจำนวนมากได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลายเพื่อให้งานเกิดผลความสะดวกรวดเร็ว  ความถูกต้องและมามารถทำสำเนาได้เป็นจำนวนมาก  ดังนั้นการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในระบบสำนักงานจึงเรียกว่าระบบสำนักงานอัตโนมัติ  ซึงเทคโนโลยีที่กล่าวมานำไปประยุกต์ใช้กับสำนักงานได้ในหลายลักษณะ

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาอุตสาหกรรมและการผลิต
       โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งนำระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการเข้ามาช่วยจัดการงานด้านการผลิต  การสั่งซื้อ  การพัสดุ  การเงิน  บุคลากร  และงานด้านอื่นๆ

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาธารณสุขและการแพทย์      ระบบบริหารได้นำเทคโนโลยี  สารสนเทศมาใช้ในงานต่างๆ  เช่น  การลงทะเบียนผู้ป่วยการสร้างเครื่อข่ายข้อมูลทางการแพทย์  แลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ป่วย

ระบบแพทย์ทางไกล       เป็นการนำเอาความก้าวหน้าทางการสื่อสารโทรคมนาคมประยุกต์ใช้กับงานทางแพทย์ โดยการส่งสัญญาณดาวเทียม  หรือใยแก้วนำแสง  แพทย์ต้นทางและปลายทางสามรถติดต่อกันด้วยภาพเคลื่อนไหวและเสียงทำให้สามารถและเปลี่ยนข้อมูลคนไข้ระหว่างกันได้

ระบบการปรึกษาแพทย์ทางไกล  (Medical  Consultation)
      เป็นระบบการปรึกษาระหว่างโรงพยาบาล  กับโรงพยาบาลซึ่งจะมารถใช้งานพร้อมๆกันได้ 

ระบบเชื่อมเครือข่ายข้อมูลและโทนศัพท์
     เป็นระบบการใช้งานเพื่อเชื่อมต่อจากโรงพยาบาลต่างซึ่งเป็นจุดติดตั้งของโครงการ มายังสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้สามารถใช้บริการทางด้านเครือข่ายข้อมูลต่างๆ

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการสื่อสารและโทรคมนาคม

1) ดาวเทียม  เป็นสิ่งที่มนุษย์เป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้น  แล้วส่งไปโคจรรอบโลกรอบดาวเคราะห์ต่างๆดาวฤกษ์ต่างๆ  หรือเพื่อให้ท่องเที่ยวไปในอวกาศตามวิถีที่ได้มีการกำหนดไว้ก่อน  จำแนกได้หลายประเภท  ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะใช้งาน เช่น  ดาวเทียมวิทยาศาสตร์   ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในการค้นคว้าวิจัยด้านวิทยาสาสตร์

2)โทรสารหรือแฟกซ์  ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อส่งผ่านสานสนเทศจากต้นแหล่งไปยังผู้รับปลายทาง  โดยใช้ความเร็วในการส่งข้อมูลสูง ระบบการทำงานของเครื่องโทรสารเป็นกระบวนการที่เครื่องส่งฉายแสงไปที่เอกสารต้นฉบับ  เพื่อเปลี่ยนภาพหรืออักษรเป็นสัญญาณไฟฟ้า  แล้วส่งไปตามช่องทางคมนาคมต่างๆเมื่อเครื่องรับปลายทางได้รับสัญญาณดังกล่าว ก็จะเปลี่ยนสัญญาณนั้นให้ปรากฏตรงตามฉบับ

3) โทรสารหรือเทเลเท็กซ์ เป็นระบบรับ-ส่งสารสนเทศผ่านคลื่นวิทยุโทรทัศน์ ส่งออกอากาศได้ในเวลาเดียวกันกับที่มีการออกอากาศรายการโทรทัศน์ตามปรกติ

4)ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์  (E-mail)สารจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าแล้วจึงถูกส่งออกไป  ดังนั้นกระบวนการของระบบจึงเป็นลักษณะเดียวกับระบบโทรสารจำเป็นต้องอาศัยข่ายงานโทรคมนาคม

5)การประชุมทางไกล เป็นรูปแบบการสื่อสารหรือการประชุมระหว่างคนหลายๆคน  โดยไม่ต้องอยู่ต่อหน้ากัน  และใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นกลไกสำคัญในการสื่อสาร  การประชุมทางไกลมี  3  วีธี   

1. การทางไกลด้วยเสียงและภาพ

2.การประชุมทางด้วยเสียง                                                 

3.การประชุมทางไกลด้วยคอมพิวเตอร์จะใช้คอมพิวเตอร์ส่งสาระของการประชุมระหว่างกัน  ผ่านระบบออนไลน์

                            

สารสนเทศในหน่วยงานราชการ

 สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐมีลักษณะคือจะให้บริการเครือข่ายสารสนเทศภาครัฐ  เพื่อตอบสนองการบริหารงานส่งเสริมงานภาครัฐให้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดำเนินงานและเป็นศูนย์กลางส่งเสริมให้เกิดระบบการเชื่อมโยงข่าวสารระหว่างภาครัฐและประชาชนซึ่งระบบงานที่สำคัญมีดังนี้
 1. ระบบนำเสนอข้อมูลข่าวสารสำหรับผู้บริหาร
 2. ระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แบบปลอดภัย
 3. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศด้านทรัพยากรซึ่งเป็นบริการเสียภาษีออนไลน์นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์ด้านการพาณิชย์  บริการแบบพิมพ์ บริการยื่นแบบอินเทอร์เน็ตเป็นต้น
 4. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาด้านความมั่นคงของชาติและทางทหารด้านกฎหมายและการปกครอง  ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสรุปคดี  ค้นหา  และวิเคราะห์เปรียบเทียบ
 5. ด้านรัฐสภาได้ดึงเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในกิจการงานสภา  ศึกษาวิเคราะห์ระบบงานของรัฐสภาขึ้นระหว่างปี  พ.ศ.2535-2540
 6. ด้านการทหาร และกองบัญชาการทหารสูงสุด แบ่งเป็น  2 ประเภทคือ
ด้านการสื่อสารละภูมิศาสตร์-มีการนำดาวเทียมทหารมาใช้เพื่อกิจการด้านความมั่นคงทางทหาร-การถ่ายภาพภูมิศาสตร์
 7. ด้านอาวุธ  และอุปกรณ์การรักษาความมั่นคงของประเทศ
 - ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการประดิษฐ์อาวุธที่ทันสมัย- ทางด้านการทหารได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับเครื่องตรวจจับ  อาวุธสงครามรามถึงเครื่องบินที่รุกล้ำเข้ามา เขตน่านฟ้าของประเทศไทย-  มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจักเก็บข้อมูลด้านความปลอดภัย
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาบันเทิง
      การใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี และเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดอีซีนีม่า  กิจกรรมต่างๆ สำหรับสมาชิกที่เข้ามาใช้ อีซีนีม่า คือเปิดออนไลน์บุ๊คกิ้งมีการเปิดให้จองตั๋วและเลือกที่นั่งทางเว็บไซต์

        1)  ระบบที่สามารถให้บริการและสามารถตรวจสอบได้

        2)  ระบบบริการยืม-คืน  ทรัพยากรด้วยแบบรหัสบาร์โค้ด

        3)  ระบบบริการสืบค้นข้อมูลทรัพยากร              

        4)  ระบบตรวจเช็คสถิติการใช้บริการห้องสมุด

        5)  ระบบตรวจเช็คสถิติการยืม- คืนทรัพยากร

        6) การสำรวจทรัพยากรประจำปี

        7) การพิมพ์บาร์โค้ดทรัพยากรและสมาชิก